ภาวะสมองขาดเลือดซึ่งเกิดจากหลอดเลือดสมองอุดตัน ตีบ หรือหลอดเลือดสมองแตก ทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงสมองได้ส่งผลให้เซลล์สมองขาดออกซิเจน จนเกิดการตายของสมอง ผู้ป่วยจำเป็นต้องพบแพทย์ทันที เพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วน ช่วยลดความรุนแรงจากภาวะสมองตายและลดความพิการหรือทุพพลภาพของร่างกายได้
คือภาวะที่ไขสันหลังซึ่งรวมรากประสาทที่อยู่ในโพรงของกระดูกสันหลัง ได้รับบาดเจ็บจนส่งผลให้เกิดความผิดปกติของร่างกาย มักจะเกิดจากอุบัติเหตุเป็นส่วนใหญ่ โดยแบ่งชนิดของโรคตามความรุนแรงหรือแบ่งตามระดับของไขสันหลังที่ได้รับบาดเจ็บ เมื่อไขสันหลังได้รับบาดเจ็บจะทำให้มีปัญหาทางระบบประสาทและส่งผลให้ผู้ป่วยมีปัญหาทางร่างกายหรือการใช้ชีวิตประจำวัน
ปัญหาจะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับตำแหน่งและความรุนแรงของการบาดเจ็บ แต่ปัญหาที่เรามักพบคือ
คือโรคความเสื่อมของระบบประสาทที่พบบ่อยที่สุดโรคหนึ่งใน ผู้สูงอายุ โดยเกิดจากการเสื่อมอย่างช้าๆของสมอง ในส่วนที่ เรียกว่า Substantia nigra ซึ่งมีหน้าที่หลั่งสารโดพามีน “ฮอร์โมนแห่งความสุข” มีส่วนในการควบคุม การเคลื่อนไหวของร่างกาย ให้ราบเรียบต่อเนื่อง ดังนั้นเมื่อผู้ป่วยมีความผิดปกติของสมองส่วนนี้มักจะส่งผลโดยตรงต่อปัญหาการเคลื่อนไหว
คือโรคความเสื่อมของระบบประสาทที่พบบ่อยที่สุดโรคหนึ่งใน ผู้สูงอายุ โดยเกิดจากการเสื่อมอย่างช้าๆของสมอง ในส่วนที่ เรียกว่า Substantia nigra ซึ่งมีหน้าที่หลั่งสารโดพามีน “ฮอร์โมนแห่งความสุข” มีส่วนในการควบคุม การเคลื่อนไหวของร่างกาย ให้ราบเรียบต่อเนื่อง ดังนั้นเมื่อผู้ป่วยมีความผิดปกติของสมองส่วนนี้มักจะส่งผลโดยตรงต่อปัญหาการเคลื่อนไหว
โดยส่วนใหญ่ จะใช้การรักษาขั้นพื้นฐานด้านกายภาพเป็นการฝึกร่วมกับการใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ฝึกเดินชนิดสวมใส่ Exoskeleton Robot เข้ามามีส่วนช่วยในการฝึกเพื่อให้ผู้ป่วยยังคงเดินได้ดี และดีขึ้นไปจนกว่าอาการของโรคจะรุนแรงมากขึ้น
บางรายที่มีอาการรุนแรงจนกล้ามเนื้อแข็งเกร็งหรือสั่นในขณะพัก การใช้เทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กทั้งชนิด Transcranial Magnetic Stimulation (TMS) และ Peripheral Magnetic Stimulation (PMS) ช่วยลดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ และให้มีการขยับของข้อต่อเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ป่วยสามารถเคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ผู้ป่วยบางรายอาจมีปัญหาด้านร่างกายที่แตกต่างกันเช่น มีปัญหาพูดช้า หรือปัญหาด้านการกลืน การฝึกพูด และการฝึกเคี้ยวและกลืนด้วย การทำกิจกรรมบำบัด ก็สามารถส่งเสริมสมรรถภาพการใช้ชีวิตของผู้ป่วยพาร์กินสันได้
คือ กลุ่มอาการที่มีการทำงานของสมองในด้านความจำ ความคิด การใช้เหตุผล การใช้ภาษา และการรับรู้สิ่งแวดล้อม ผิดปกติไป ทำให้เกิดปัญหาทางความคิด การตัดสินใจ พฤติกรรม และ อารมณ์ผิดปกติไป มีผลต่อการใช้ชีวิต หรือการทำกิจวัตรประจำวัน จนในที่สุดผู้ป่วยหลายคนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องมีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากความเสื่อมของสมองและมักเกิดในผู้สูงอายุ
เฉื่อยชา
นึกคำพูดไม่ออก
มึนงง
สูญเสียความจำ
สับสนเวลาและสถานที่
แก้ปัญหาง่ายๆได้ยาก
Silver Gen
สำหรับประเทศไทยได้กำหนดนิยามผู้สูงอายุ
อย่างเป็นทางการตามพระราชบัญญัติ
ผู้สูงอายุ พ.ศ.2546
“ผู้สูงอายุ” หมายถึง บุคคลซึ่ง
มีอายุเกิน 60 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป
และมีสัญชาติไทย
ซึ่งปัจจุบันสังคมไทยนับได้ว่าเป็น “สังคมผู้สูงอายุ”
เนื่องจากมีผู้สูงอายุมากกว่าร้อยละ 10
ตามเกณฑ์ขององค์การสหประชาชาติ
โดยปัจจุบันเราได้หันมาสนใจสุขภาพของผู้สูงอายุมากขึ้น เพราะเฉลี่ยอายุของผู้สูงอายุนั้น
ยืนยาวมากขึ้น การรักษาฟื้นฟู ส่งเสริมและป้องกันความเจ็บป่วย
จึงมีส่วนช่วยให้คุณภาพชีวิตผู้สูงอายุดีขึ้น ปัญหาอะไรบ้างเมื่อเข้าสู่วัยผู้สูงอายุที่เราต้องพบเจอ
เราให้ความสำคัญกับปัญหาด้านการเคลื่อนไหว การเดิน ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและข้อต่อ
เนื่องด้วยปัญหาเหล่านี้ส่งผลให้เกิดการหกล้มในผู้สูงอายุได้ ด้วยร่างกายที่เปลี่ยนแปลง
ไปผู้สูงอายุและครอบครัวควรระมัดระวังและลดความเสี่ยงเหล่านี้ด้วยวิธีง่ายๆ
เช่น
สาเหตุเกิดจากมีแรงกระแทกที่ศีรษะจนทำให้เนื้อสมองได้รับการบาดเจ็บ
โดยผลอาจจะมีขนาดเล็กน้อยจนถึงรุนแรง เกิดรอยช้ำ ไปจนถึงเลือดออกในสมองหรือเสียชีวิต
มักจะไม่แน่นอนขึ้นกับตำแหน่งของพยาธิสภาพของสมองที่เสียหายแต่ส่วนใหญ่มักพบคือ
การฟื้นฟูด้านกายภาพบำบัดในผู้ป่วยสมองบาดเจ็บขึ้นอยู่กับอาการแสดงของผู้ป่วยแต่ละราย ส่วนใหญ่ปัญหาที่พบหลังจากระบบประสาทสมองโดนทำลายมักส่งผลให้ผู้ป่วยมีความพิการหรือทุพพลภาพเกิดขึ้น เดินไม่ได้ พูดลำบาก กล้ามเนื้ออ่อนแรง เป้าหมายด้านกายภาพบำบัดคือลดความพิการหรือทุพพลภาพของร่างกายให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตให้ปกติมากที่สุดอีกครั้ง ซึ่งหากผู้ป่วยได้รับการฟื้นฟูอย่างรวดเร็วจะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวได้เร็วเช่นกัน
ตัวอย่างการกายภาพบำบัดเพื่อฝึกเดินด้วย หุ่นยนต์ฝึกเดินชนิด Exoskeleton ซึ่งให้ผู้ป่วยสวมใส่และให้หุ่นยนต์พาผู้ป่วยก้าวเดินต่อเนื่องซ้ำๆ ให้เกิดการเคลื่อนไหวที่คล้ายการเดินจริงๆ หรือใช้คลื่นแม่เหล็กกระตุ้นสมองชนิด Transcranial Magnetic Stimulation (TMS) กระตุ้นสมองส่วนที่บาดเจ็บให้เนื้อสมองเกิดการสั่งการใหม่อีกครั้ง ร่วมกับการทำ กายภาพบำบัดเพื่อฝึกฝนให้ผู้ป่วยเดิน เคลื่อนไหวด้วยตนเอง จะเป็นส่วนช่วยให้ผู้ป่วยกลับมามีชีวิตที่ใกล้เคียงปกติมากยิ่งขึ้น