เป็นการเพิ่มทักษะด้านต่างๆของผู้ป่วยให้เสมือนจริงมากที่สุด เช่น การใช้หุ่นยนต์ชนิด Exoskeleton Robot ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ที่ผู้ป่วยสามารถสวมใส่ และพา ผู้ป่วยนั่ง ยืน และ เดิน ได้เสมือนจริงหรือการทำเทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กมากระตุ้นสมองที่ได้รับการบาดเจ็บ Transcranial Magnetic Stimulation (TMS) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสั่งการใหม่อีกครั้งของสมองที่บาดเจ็บ
TMS
Transcranial Magnetic Stimulation ( TMS) เป็นเครื่องสำหรับการกระตุ้นสมองและระบบประสาท
ซึ่งได้นำมาใช้รักษาฟื้นฟูในกลุ่มโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke), การบาดเจ็บของไขสันหลัง (Spinal Cord Injury), โรคพาร์กินสัน (Parkinson), โรคไมเกรน (Migraine), โรคซึมเศร้า (Depression) หรือกลุ่มอาการผิดปกติของพฤติกรรมการกิน (Eating Disorder) เป็นต้น
โดยหลักการคือ การใช้หัวกระตุ้นวางในตำแหน่งของสมองที่มีปัญหาหรือได้รับการบาดเจ็บ พร้อมปล่อยคลื่นแม่เหล็กอย่างต่อเนื่อง ซ้ำๆ เพื่อให้สมองมีการส่งสัญญาณประสาทได้ใหม่อีกครั้ง ซึ่งเป็นอีกวิธีเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูสมองและระบบประสาท คลื่นแม่เหล็กTMS มักนำมาใช้กระตุ้นสมองในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสั่งการของสมองด้านการพูด การสื่อสาร การสั่งการด้านการเคลื่อนไหว
TMS
Transcranial Magnetic Stimulation ( TMS) เป็นเครื่องสำหรับการกระตุ้นสมองและระบบประสาท
ซึ่งได้นำมาใช้รักษาฟื้นฟูในกลุ่มโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke), การบาดเจ็บของไขสันหลัง (Spinal Cord Injury), โรคพาร์กินสัน (Parkinson), โรคไมเกรน (Migraine), โรคซึมเศร้า (Depression) หรือกลุ่มอาการผิดปกติของพฤติกรรมการกิน (Eating Disorder) เป็นต้น
โดยหลักการคือ การใช้หัวกระตุ้นวางในตำแหน่งของสมองที่มีปัญหาหรือได้รับการบาดเจ็บ พร้อมปล่อยคลื่นแม่เหล็กอย่างต่อเนื่อง ซ้ำๆ เพื่อให้สมองมีการส่งสัญญาณประสาทได้ใหม่อีกครั้ง ซึ่งเป็นอีกวิธีเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูสมองและระบบประสาท คลื่นแม่เหล็กTMS มักนำมาใช้กระตุ้นสมองในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสั่งการของสมองด้านการพูด การสื่อสาร การสั่งการด้านการเคลื่อนไหว
PMS
Peripheral Magnetic Stimulation ( PMS) เป็นเครื่องสำหรับการกระตุ้นระบบประสาทและเส้นประสาทส่วนปลาย
โดยการปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปยังตำแหน่งต่างๆของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ ซึ่งสามารถใช้กับผู้ป่วยโรคทางระบบประสาทเช่น โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke), การบาดเจ็บของไขสันหลัง (Spinal Cord Injury), โรคพาร์กินสัน (Parkinson), โรคไมเกรน (Migraine) หรือโรคทางระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ เช่น ปวดหลัง (Back Pain), หมอนรองกระดูกหลังทับเส้นประสาท (Herniated Nucleus Pulposus)
PMS นิยมใช้ในการกระตุ้นกล้ามเนื้อหรือเส้นประสาทในผู้ป่วยโรคหลอดเลือกสมอง (Stroke) หรือผู้ป่วยไขสันหลังบาดเจ็บ (Spinal Cord Injury) เพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นและให้เส้นประสาทเกิดการรับรู้และสั่งการ พร้อมส่งสัญญาณไปยังสมองถึงการทำงานของกล้ามเนื้อที่อ่อนแรง การกระตุ้นต่อเนื่องสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการสั่งงานของกล้ามเนื้อของผู้ป่วยได้ หรืออาจใช้คลื่นแม่เหล็กชนิด PMS เพื่อบรรเทาความปวดซึ่งมักนิยมใช้ในผู้ป่วยออฟฟิศซินโดรม หรือลดอาการชาที่เกิดจากเส้นประสาทที่โดนทำลายได้อีกด้วย
PMS
Peripheral Magnetic Stimulation ( PMS) เป็นเครื่องสำหรับการกระตุ้นระบบประสาทและเส้นประสาทส่วนปลาย
โดยการปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปยังตำแหน่งต่างๆของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ ซึ่งสามารถใช้กับผู้ป่วยโรคทางระบบประสาทเช่น โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke), การบาดเจ็บของไขสันหลัง (Spinal Cord Injury), โรคพาร์กินสัน (Parkinson), โรคไมเกรน (Migraine) หรือโรคทางระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ เช่น ปวดหลัง (Back Pain), หมอนรองกระดูกหลังทับเส้นประสาท (Herniated Nucleus Pulposus)
PMS นิยมใช้ในการกระตุ้นกล้ามเนื้อหรือเส้นประสาทในผู้ป่วยโรคหลอดเลือกสมอง (Stroke) หรือผู้ป่วยไขสันหลังบาดเจ็บ (Spinal Cord Injury) เพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นและให้เส้นประสาทเกิดการรับรู้และสั่งการ พร้อมส่งสัญญาณไปยังสมองถึงการทำงานของกล้ามเนื้อที่อ่อนแรง การกระตุ้นต่อเนื่องสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการสั่งงานของกล้ามเนื้อของผู้ป่วยได้ หรืออาจใช้คลื่นแม่เหล็กชนิด PMS เพื่อบรรเทาความปวดซึ่งมักนิยมใช้ในผู้ป่วยออฟฟิศซินโดรม หรือลดอาการชาที่เกิดจากเส้นประสาทที่โดนทำลายได้อีกด้วย
ซึ่งหุ่นยนต์ชนิดนี้คือหุ่นยนต์ที่ผู้ป่วยสามารถสวมใส่คล้ายสวมเสื้อผ้า พร้อมพาให้ผู้ป่วยได้เคลื่อนไหวในท่าทางต่างๆ คือนั่ง ยืน และการก้าวเดิน ในทุกๆการเคลื่อนไหวที่เสมือนจริง โดยสามารถใช้กับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke), การบาดเจ็บของไขสันหลัง (Spinal Cord Injury), โรคการบาดเจ็บของสมอง (Brain Trauma), โรคพาร์กินสัน (Parkinson) หรือผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านการเดิน เป้าหมายเพื่อให้ระบบประสาทและสมองได้รับรู้และเรียนรู้การเดินที่สูญเสียไปให้กลับมาเดินได้ดีขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากหุ่นยนต์แบบสวมใส่นี้ผู้ป่วยจะสามารถยืนและเดินลงน้ำหนักได้กับพื้นจริง ซึ่งประโยชน์โดยตรง คือแรงที่เรียกว่า On Ground Training เป็นสิ่งกระตุ้นจากการเดินลงน้ำหนักผ่านข้อต่อต่างๆให้มีการส่งข้อมูลไปยังไขสันหลังและสมอง เมื่อมีการกระตุ้นซ้ำๆ ต่อเนื่องส่งผลให้ประสิทธิภาพการสั่งการของระบบประสาทด้านการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นได้
กายภาพบำบัดในผู้ป่วยทางระบบประสาทและสมอง คือ
การบำบัดรักษาฟื้นฟูร่างกายเพื่อให้ผู้ป่วยกลับไปนั่ง ยืน เดิน
ได้ด้วยตนเองอีกครั้ง
โดยมีหลักการคือ สร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ฝึกฝนการเคลื่อนไหวในท่าทางที่ผู้ป่วยมีปัญหาและเลือกใช้อุปกรณ์สำหรับการฝึกการเคลื่อนไหวต่างๆ ซึ่งในทางกายภาพเราทราบดีว่าปัจจัยพื้นฐานในการทำกิจวัตรประจำวันคือ การยืน เดิน ดังนั้นการทำกายภาพบำบัด คือสิ่งสำคัญลำดับแรกๆ ในการฟื้นฟูร่างกาย โดยเฉพาะผู้ป่วยระบบประสาทและสมอง ซึ่งมีปัญหาโดยตรงต่อการเคลื่อนไหว
เป็นวิธีการรักษาฟื้นฟูโดยนำกิจกรรมในชีวิตประจำวันของคนปกติทั่วไป
เพื่อนำมาฝึกฝนเรียนรู้สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาเช่น กิจกรรมการกิน การเคี้ยวอาหาร กิจกรรมการฝึกพูดและสื่อสารหรือกิจกรรมการแต่งตัวแต่งหน้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือปัญหาหลักของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (stroke) และโรคไขสันหลังหรือสมองบาดเจ็บ ( spinal cord and brain injury)
โดยมีหลักการและแนวทางคือ การประเมินหาข้อจำกัดในกิจวัตรประจำวันของผู้ป่วย ซึ่งแต่ละรายอาจมีปัญหาที่แตกต่างกันออกไป พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาเช่น เป้าหมายการรับประทานอาหารด้วยตนเองของผู้ป่วย Stroke ที่ต้องการถอดสายให้อาหารทางสายยาง จนถึงวางแผนการรักษาด้านการฝึกรับประทานอาหารทำให้ผู้ป่วยสามารถถอดสายให้อาหารได้
กิจกรรมบำบัดจึงเป็นสิ่งสำคัญในการส่งเสริมทักษะ การดำเนินชีวิตประจำวันทุกๆ ด้านของผู้ป่วยให้กลับมาใกล้เคียงปกติมากที่สุด
โดยให้ผู้ป่วยอยู่ภายในเครื่องปรับบรรยากาศ (hyperbaric chamber) ซึ่งมีลักษณะคล้ายหลอดแก้วขนาดใหญ่ เพื่อให้ร่างกายได้รับออกซิเจนในปริมาณที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับออกซิเจนที่ความกดบรรยากาศปกติ
โดยตัวอย่างการบำบัดรักษาด้วย HBOT สามารถนำมาใช้กับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง เพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้กับร่างกายและเนื้อสมองที่โดนทำลาย ซึ่งการเพิ่มการไหลเวียนเลือดที่มีออกซิเจนสูงยังส่งผลต่อการงอกของหลอดเลือดฝอยในส่วนต่างของร่างกาย มีผลต่อการซ่อมแซมเนื้อเยื่อของร่างกายโดยสามารถใช้กับผู้ป่วยเช่น